สู่ศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
โรงพยาบาลรามาธิบดี ด่านหน้าที่พร้อมดูแลคนไทยตลอด 24 ชั่วโมง
นวัตกรรมการรักษาที่พร้อมดูแลตั้งแต่วินาทีแรกที่พบผู้ป่วย ไปจนถึงขั้นตอนการรักษา
ด้วยปริมาณผู้ป่วยฉุกเฉินเฉลี่ยกว่า 150 รายต่อวัน โดย 30% เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรง ศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดีจึงต้องทำงานด้วยความแม่นยำและรวดเร็วในทุกนาที ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินยาวนาน 24–48 ชั่วโมง จากข้อจำกัดด้านเตียงวิกฤต ขณะที่ข้อมูลในปีที่ผ่านมาพบว่า กว่า 80% เป็นผู้ป่วยอายุรกรรมฉุกเฉิน เช่น ภาวะหัวใจหยุดเต้น โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ระบบไหลเวียนล้มเหลว และภาวะติดเชื้อรุนแรง ส่วนผู้ป่วยอุบัติเหตุและบาดเจ็บคิดเป็นประมาณ 20% ซึ่งต้องการการประเมินและตัดสินใจที่แม่นยำในเสี้ยววินาที สถานการณ์เหล่านี้สะท้อนบทบาทสำคัญของศูนย์ฯ ที่ต้องพร้อมรับมือเหตุวิกฤตทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ฯ ยังทำหน้าที่เป็นจุดรับส่งต่อหลักของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านระบบส่งต่อดิจิทัลที่ประเมินผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ พร้อมพัฒนาเครือข่าย Tele consult และระบบ AI เพื่อช่วยประเมินความรุนแรงและเลือกโรงพยาบาลปลายทางที่เหมาะสมที่สุด ยกระดับการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินให้รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังเป็นหน่วยงานสำคัญด้านการจัดการอุบัติภัยหมู่และสาธารณภัย โดยมีระบบบัญชาการเหตุการณ์ที่ผ่านการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง สามารถรองรับสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทีมแพทย์ฉุกเฉินกับภารกิจการดูแลประชาชนในทุกพื้นที่
โดยทีมแพทย์ทางอากาศ หรือ Sky Doctor มีภารกิจสำคัญในการวินิจฉัย และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤตผ่านทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลปลายทางได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางอุปสรรคในการคมนาคม พร้อมทั้งมีการสนับสนุนทีมแพทย์ เพื่อให้บริการตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้น และให้คำแนะนำในการรักษาดูแลสุขภาพ รวมถึงแจกจ่ายยาป้องกันโรคฉี่หนู (Leptospirosis) เพื่อป้องกันการระบาดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่อาจมาพร้อมกับสภาวะน้ำท่วมขัง
“หัวใจของงานเวชศาสตร์ฉุกเฉินคือ ‘ทุกวินาทีคือชีวิต’ ในฐานะศูนย์ตติยภูมิ ที่เพรียบพร้อมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นวัตกรรมแพทย์ และการส่งต่อผู้ป่วย ศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด โดยวิสัยทัศน์ของศูนย์ฯ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการรักษา แต่ต้องการเป็นศูนย์กลางการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ผ่านการจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรอบรมเฉพาะทาง การเสริมสร้างทักษะผ่านสถานการณ์จำลอง รวมถึงความร่วมมือกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ของประเทศ พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการดูแลและรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในวันนี้และในวันหน้า” รศ. ดร. นพ.ไชยพร กล่าวเสริม
ศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกช่วงเวลา ทั้งยามวิกฤตที่ต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน หรือช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ทีมแพทย์ฉุกเฉินและผู้เชี่ยวชาญยังคงปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสุขของคนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ศักยภาพทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากพลังแห่งการให้ของผู้ใจบุญทุกท่านผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ ที่สนับสนุนเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมถึงรถพยาบาลฉุกเฉินขั้นสูง ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ อาคารฉุกเฉินและอุบัติเหตุ การพัฒนาหลักสูตร และการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์รามาธิบดีที่มีคุณภาพ ส่งกลับมาเป็นระบบการดูแลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง สะท้อนคุณค่าของ “คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด” ที่ส่งต่อจากผู้ให้...กลับไปสู่ชีวิตของคนไทยทุกคน
#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด










0 Comments