สรุปบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มธนาคารปี 2025 และแนวโน้มปี 2026
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (KKPS) คาดการณ์ว่ากำไรปี 2025 ของภาคธนาคารจะโตประมาณ 5% หลังจากเพิ่มขึ้น 6% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี โดยได้แรงหนุนจากกำไรพิเศษจากการขายพันธบัตรและกำไรมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (fair value through profit or loss: FVTPL) ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการดีกว่าปี 2024 และรักษาระดับเงินปันผลให้อยู่ประมาณ 7% แม้ดอกเบี้ยจะเป็นขาลง เมื่อผลกำไรพิเศษเริ่มลดลง แรงกดดันจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (net interest income: NII) จะเห็นชัดขึ้น ทำให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับ (1) การคืนทุนให้ผู้ถือหุ้น (2) ความทนทานของกำไรเมื่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (net interest margin: NIM) ลดลง และ (3) โอกาสการเติบโตของสินเชื่อ
สิ่งที่ทาง KKPS เน้นสำหรับภาคธนาคารยังคงเป็น การบริหารเงินกองทุน โดยมองว่าธนาคารสามารถจ่ายปันผลได้อย่างน้อย 80% ของกำไร เพราะอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (common equity tier 1 ratio: CET1) สูงกว่ากรอบมาก และมีส่วนเกินเท่ากับ 12-41% ของกำไรปี 2026 นอกจากนี้ การเติบโตของสินทรัพย์เสี่ยงยังต่ำ โดยธนาคารทิสโก้ (TISCO) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จ่ายเกิน 80% อยู่แล้ว ส่วนธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (TTB) จ่ายรวม (ปันผล + ซื้อหุ้นคืน) เท่ากับ 100% KKPS ยังเห็นความเป็นไปได้ที่ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกร (KBANK) และธนาคารกรุงไทย (KTB) จึงปรับเพิ่มเงินปันผลต่อหุ้น สำหรับ BBL คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 6% เป็น 9 บาท, KTB คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 16% เป็น 1.76 บาท และรวมเงินปันผลพิเศษของ KBANK เข้ากับการจ่ายปกติ
KKPS ยังมองอีกว่ากำไรภาคธนาคารในปี 2026 มีแนวโน้มอ่อนตัวเล็กน้อยมากกว่าจะปรับลงแรง คาดรายได้รวมจะลดลง 7% และกำไรลดลง 4% ในปีหน้า ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในปี 2027 ปัจจัยชดเชยแรงกดดันจาก NIM จะได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง (มีเงินกันสำรองส่วนเกิน) ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากบริการบัตรเครดิต การให้คำปรึกษาการลงทุน การชำระเงิน และการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวด
การเติบโตของสินเชื่อคาดว่าจะฟื้นเล็กน้อยหลังหดตัวในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อภาค SME ที่ทรงตัว สินเชื่อภาคธุรกิจและภาครัฐบาลที่ฟื้น และสินเชื่อบ้านที่ยังโตต่อเนื่อง KKPS คาดว่าสินเชื่อจะโตประมาณ 2% ในปี 2026-2027 โดยมาตรการรัฐและธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยประคองการเติบโตของสินเชื่อแต่จะไม่ทำให้เกิดการขยายสินเชื่อครั้งใหญ่
มูลค่าหุ้นธนาคารยังน่าสนใจจากเงินปันผลที่สูงและกำไรลงที่คาดว่าจะลดลงเพียงเล็กน้อยในปีหน้า KKPS คงคำแนะนำเดิมและปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ BBL, KBANK, KTB และ TTB โดยยังมองว่า KTB และ KBANK เป็นหุ้นเด่น
-----------------------------------------------------------------------------
เกี่ยวกับบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (บล.เกียรตินาคินภัทร) เป็นหนึ่งในผู้นำของประเทศไทยด้านธุรกิจตลาดทุน ซึ่งครอบคลุมธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน และธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Wealth Management)
ทั้งนี้ บล.เกียรตินาคินภัทรเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่ประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด โดยกลุ่มธุรกิจฯ มีเป้าหมายในการมุ่งนำทรัพยากรสู่ลูกค้าอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปี่ยมประสิทธิภาพด้วยบริการที่เหนือความคาดหมาย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kkpfg.com
เกี่ยวกับบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (บล.เกียรตินาคินภัทร) เป็นหนึ่งในผู้นำของประเทศไทยด้านธุรกิจตลาดทุน ซึ่งครอบคลุมธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน และธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Wealth Management)
ทั้งนี้ บล.เกียรตินาคินภัทรเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่ประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด โดยกลุ่มธุรกิจฯ มีเป้าหมายในการมุ่งนำทรัพยากรสู่ลูกค้าอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปี่ยมประสิทธิภาพด้วยบริการที่เหนือความคาดหมาย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kkpfg.com






0 Comments