Ad Code

Recent Posts

บีเอ็มดับเบิลยู M ปลดปล่อยสมรรถนะเหนือชั้นและความพิเศษเฉพาะตัว ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ใหม่ และ บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring ครั้งแรก สู่ตลาดประเทศไทย


บีเอ็มดับเบิลยู M ปลดปล่อยสมรรถนะเหนือชั้นและความพิเศษเฉพาะตัว
ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ใหม่ และ บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring
ครั้งแรก สู่ตลาดประเทศไทย


กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวสุดยอดยานยนต์สมรรถนะสูงถึงสองรุ่นในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู M สู่ตลาดประเทศไทย กับบีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งสำคัญของตระกูล M3 Touring ด้วยรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู M ในการส่งมอบพละกำลัง ความแม่นยำ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทั้งนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะขั้นสูง โดยทั้งสองรุ่นจะเปิดรับจองตั้งแต่วันนี้ 25 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้นำบีเอ็มดับเบิลยู M2 CS และ บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring มาสร้างปรากฏการณ์ใหม่สู่ลูกค้าคนสำคัญของเราในประเทศไทย รถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้นับเป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นเลิศทางวิศวกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู M ผสมผสานอย่างไร้ที่ติระหว่างสมรรถนะระดับสนามแข่งและความสามารถในการใช้งานในชีวิตประจำวันที่เหนือระดับ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่พิเศษและเร้าใจที่สุดสู่ตลาดไทย เพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชมศิลปะแห่งการขับขี่สมรรถนะสูงอย่างแท้จริง"

บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ใหม่ สุดยอดผลงานชิ้นเอกในขนาดคอมแพ็ค เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ


บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS คือที่สุดแห่งความทรงพลังพร้อมด้วยสมรรถนะเพื่อสนามแข่งอย่างแท้จริง โดยได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบของการขับขี่ นับเป็นที่สุดของกลุ่มรถสปอร์ตสมรรถนะสูงขนาดคอมแพ็คอย่างแท้จริง

ภายใต้ฝากระโปรงหน้าของบีเอ็มดับเบิลยู M2 CS คือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ ปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลถึง 530 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 50 แรงม้าจาก M2 รุ่นมาตรฐาน พลังทั้งหมดถูกส่งตรงไปยังล้อหลังผ่านเกียร์ M Steptronic 8 สปีด พร้อมแท่นยึดเครื่องยนต์เฉพาะรุ่น CS เพื่อการตอบสนองที่ฉับไว บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.4–3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยหากวัดตามมาตรฐานการคำนวณแบบ ‘1-foot rollout’ (ไม่รวมระยะออกตัว 1 ฟุต) อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 3.5 วินาที

นอกเหนือจากพละกำลังอันน่าเกรงขาม บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ยังมีน้ำหนักลดลงถึง 30 กก. เมื่อเทียบกับ M2 รุ่นมาตรฐาน ด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายองค์ประกอบ ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าเฉพาะรุ่น CS และชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์มากมาย รวมถึงฝากระโปรงท้ายคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมสปอยเลอร์แบบ Ducktail ในตัว

ฝาครอบกระจกมองข้างคาร์บอนไฟเบอร์ และหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด โดยลดระดับลง 8 มม. เมื่อเทียบกับ M2 รุ่นมาตรฐาน เพื่อให้การควบคุมที่เหนือชั้นและคล่องตัว ล้ออัลลอย M แบบฟอร์จน้ำหนักเบาที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ยังช่วยเสริมสมรรถนะให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสารสะท้อนถึงดีเอ็นเอของมอเตอร์สปอร์ต ด้วยคอนโซลกลางคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมตราสัญลักษณ์

CS ที่โดดเด่น เบาะนั่งแบบ Bucket Seat คาร์บอนไฟเบอร์พร้อมตราสัญลักษณ์ CS เรืองแสง และพวงมาลัย Alcantara พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนไฟเบอร์และเครื่องหมาย 12 นาฬิกาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ตราสัญลักษณ์ CS เฉพาะรุ่น ตอกย้ำสถานะพิเศษของรถยนต์คันนี้ ระบบ Active Sound Design NEXT พร้อมการปรับแต่งเฉพาะรุ่น
CS ช่วยเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่

สำหรับลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ สามารถเลือกปรับแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย อาทิ ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก M การตกแต่งภายในด้วยสี Red High-Gloss รวมถึงตัวเลือกสีที่หลากหลายทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร

บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS ใหม่ ราคา 7,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS (พร้อมระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก M การตกแต่งภายในด้วยสี Red High-Gloss) ราคา 8,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู M2 CS (สี Individual Velvet Blue Metallic พร้อมระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก M ราคา 8,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring: รถแวกอนที่เร็วที่สุดบนสนาม Nürburgring พร้อมแล้วในประเทศไทย



บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring รุ่นพิเศษใหม่ล่าสุด เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตระกูล M3 Touring ยกระดับทั้งสมรรถนะและความอเนกประสงค์ พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถสปอร์ตพลังแรงที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน โดย M3 CS Touring ได้จารึกความสำเร็จไว้บนสนาม Nürburgring-Nordschleife ด้วยเวลาเพียง 7:29.490 นาที ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ทัวริ่งที่เร็วที่สุดตลอดกาล สะท้อนถึงสมดุลอันลงตัวระหว่างดีเอ็นเอแห่งสนามแข่งและความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง

หัวใจสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring คือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ที่ได้รับการปรับแต่งเฉพาะรุ่น ให้พละกำลังสูงสุด 405 กิโลวัตต์ / 551 แรงม้า
เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเพียง 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ หากวัดตามมาตรฐานการคำนวณแบบ ‘1-foot rollout’ (ไม่รวมระยะออกตัว 1 ฟุต) อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 3.2 วินาที เสริมด้วยโครงสร้าง M front strut brace ที่เพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic พร้อม Drivelogic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ M xDrive ที่ทำงานร่วมกับระบบ Active M Differential เพื่อมอบการยึดเกาะถนนและการควบคุมรถที่เฉียบคมในทุกรูปแบบการขับขี่

ระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ให้เหมาะสมทั้งการ ใช้งานบนถนนและสนามแข่ง ควบคู่กับระบบรักษาเสถียรภาพการขับขี่แบบไดนามิก (DSC) และโหมด M Dynamic ที่ตอบสนองต่อการขับขี่สมรรถนะสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบเบรก M Compound ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน และยังสามารถเลือกอัปเกรดเป็นระบบเบรก M Carbon-ceramic เพื่อการหยุดรถที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ดีไซน์ภายนอกสะท้อนความพิเศษเฉพาะตัวด้วยไฟหน้า Adaptive LED พร้อมสัญลักษณ์สีเหลืองเรืองแสง และล้ออัลลอย M4 CS design ที่มีให้เลือกเสริม เพิ่มเอกลักษณ์แห่งความสปอร์ตในทุกมุมมอง ห้องโดยสารเน้นความโฉบเฉี่ยวสไตล์มอเตอร์สปอร์ตเต็มขั้น มาพร้อมพวงมาลัย M ดีไซน์ใหม่ เบาะหุ้มหนัง Merino สี Black/Red พร้อมสัญลักษณ์ CS Design ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของรุ่นพิเศษนี้

บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring ใหม่ ผสานความแรงอันเร้าใจเข้ากับประโยชน์ใช้สอยได้อย่างครบถ้วน ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 500-1,510 ลิตร ใต้ประตูท้ายที่เปิดได้สูง รองรับทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการโลดแล่นบนสนามแข่งในคันเดียว รถยนต์รุ่นนี้จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียงหนึ่งปีเท่านั้น เปิดโอกาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้า
ชาวไทยได้ครอบครองหนึ่งในตำนานแห่งประวัติศาสตร์ของ BMW M


บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS Touring จะวางจำหน่ายในราคา 15,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ BSI Standard)

                                                        # # #

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

ด้วย 4 แบรนด์ชั้นนำ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตยานยนต์และจักรยานยนต์ระดับพรีเมียม พร้อมบริการทางการเงินชั้นเยี่ยม ด้วยเครือข่ายการผลิตที่ครอบคลุมมากกว่า 30 โรงงานทั่วโลก และเครือข่ายการจำหน่ายในกว่า 140 ประเทศ

ในปี 2567 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.45 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 210,000 คันทั่วโลก โดยมีผลกำไรก่อนหักภาษีในปีการเงิน 2567 อยู่ที่ 11.0 พันล้านยูโร จากรายได้รวมทั้งสิ้น 142.4 พันล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 159,104 คน

ความสำเร็จทางเศรษฐกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการคิดระยะยาวและการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบ ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์องค์กรของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ห่วงโซ่อุปทาน การผลิต ไปจนถึงสิ้นสุดอายุการใช้งาน

www.bmwgroup.com

LinkedIn: http://www.linkedin.com/company/bmw-group/

YouTube: https://www.youtube.com/bmwgroup

Instagram: https://www.instagram.com/bmwgroup

Facebook: https://www.facebook.com/bmwgroup

X: https://www.x.com/bmwgroup


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วย

สี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง

ในปี 2567 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 13,659 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 12,208 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,451 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,011 คัน  

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็ม

ดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จาก
ซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 19 รุ่น ได้แก่

บีเอ็ม ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับมินิ ได้แก่ มินิ คันทรีแมน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS  บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS  Adventure บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS  บีเอ็มดับเบิลยู F 900 GS Adventure  บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R  บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR  บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR  บีเอ็มดับเบิลยู R 18  บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Bagger นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 4 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport และ บีเอ็มดับเบิลยู M760e xDrive

Post a Comment

0 Comments

Comments

Ad Code