ผู้ชนะการแข่งขัน Dakar Rally 2 สมัย
แซม ซันเดอร์แลนด์ จะร่วมงานกับไทรอัมพ์ในโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ ครอบคลุมในส่วนตลาดรถจักรยานยนต์แอดแวนเจอร์และรถจักรยานยนต์ออฟโรด
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้เซ็นสัญญากับแซม ซันเดอร์แลนด์ (Sam Sunderland) นักบิดแชมป์การแข่งขัน Dakar Rally 2 สมัยและแชมป์การแข่งขัน FIM World Rally Raid เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยพัฒนาและสนับสนุนในส่วนโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ของรถจักรยานยนต์แอดแวนเจอร์และออฟโรด
ภายหลังจาก แซม ซันเดอร์แลนด์ อำลาวงการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา นักแข่งชาวอังกฤษจากทีม Red Bull ก็ได้เริ่มทำงานกับทั้งทีม Red Bull และ Triumph เพื่อร่วมกันหาโอกาสต่าง ๆ สำหรับการผจญภัยครั้งต่อไปของเขา ซึ่งจะต่อยอดจากประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขาในรายการแข่งขัน Dakar Rally ซึ่งเป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ขั้นสูงสุด
แซม ซันเดอร์แลนด์ กล่าวว่า “การร่วมมือกับไทรอัมพ์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวต่อไปอันน่าตื่นเต้นในอาชีพการงานของผม และผมตั้งตารอที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมอังกฤษ ที่จะมาเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ร่วมกับผม และทีม Red Bull แน่นอนว่าผมแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้นแล้ว”
มร.พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เผยว่า “เราได้เห็นการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในกลุ่มรถ Adventure ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาด้วยความสำเร็จทั่วโลกของรถจักรยานยนต์ Tiger และ Scrambler ของเรา รวมถึงการตัดสินใจเปิดตัวสู่ตลาด Motocross และ Enduro เป็นครั้งแรก ดังนั้นการได้ร่วมงานกับ แซม ซันเดอร์แลนด์ ผู้ชนะการแข่งขัน Dakar Rally ในการผจญภัยครั้งใหม่ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และเรารู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับแซมเข้าสู่ครอบครัวไทรอัมพ์”
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้ลงทุนในตลาดรถจักรยานยนต์ออฟโรด โดยประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถจักรยานยนต์โมโตครอสขนาด 250 ซีซี ที่มีการแข่งขันสูงด้วยรุ่น TF 250-X และ TF 450-RC Edition ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
ด้วยอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักระดับชั้นนำ ทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์โมโตครอส TF 250-X ได้พิสูจน์ศักยภาพในการคว้าตำแหน่งโพเดียมด้วยชัยชนะครั้งสำคัญโดย ทีม Triumph Factory Racing ในการแข่งขัน AMA Supercross นอกจากนี้ไทรอัมพ์ยังเตรียมลงแข่งขันในปี 2025 ด้วยโมเดล Enduro ใหม่ ภายใต้การนำทีมของ Paul Edmondson ผู้จัดการทีมและอดีตแชมป์โลก
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น Tiger 900 และ Tiger 1200 ที่ได้รับรางวัลทั้งสองรุ่นได้รับการอัปเดตในปี 2024 โดยมีเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ และปรับแต่งเครื่องยนต์ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ของไทรอัมพ์ดูได้ที่ www.triumphmotorcycles.co.th
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ
ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน Hinckley, Leicestershire และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
เรื่องราวความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ
ด้วยรถจักรยานยนต์มากกว่า 104,899 คันที่ส่งมอบในปี 2024 และมุ่งสู่การมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 839 รายใน 68 ประเทศทั่วโลก ทำให้ ไทรอัมพ์
มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 3,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน Hinckley, Leicestershireและประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลก
ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในสิ่งที่นักบิดทั่วโลกกำลังมองหา ความหลงใหลในการส่งมอบการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกคน และความใส่ใจ
ในรายละเอียดที่มอบรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงสุด Triumph นำเสนอรถจักรยานยนต์ชั้นนำประเภทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุม รถจักรยานยนต์
โมเดิร์นคลาสสิก โรดสเตอร์ และรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ตั้งแต่ TR-Series 400cc ที่สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึง Rocket 3 ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc
อันทรงพลัง ทุกรุ่นมีสไตล์ คุณภาพ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์
มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์ เช่น Speed 400 และ Scrambler 400 X เปิดตัว
ในปี 2023 พร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์เดี่ยวใหม่ล่าสุด (TR Series) ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักบิดรุ่นใหม่
Modern Classics มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ในตำนานของ Triumph ที่ตั้งชื่อ เพื่อเฉลิมฉลองสถิติความเร็วบนบกของ Triumph ในปี 1956
บน Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา Bonneville เป็นรถซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษดั้งเดิมและเป็นผู้ชนะการแข่งขัน โดยได้รับเลือกจากนักขี่รถจักรยานยนต์ชื่อดังในอดีต ที่มีความโดดเด่นด้านการควบคุมและสไตล์ ปัจจุบัน รถตระกูล Bonneville ได้รับการพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีที่เน้น
ผู้ขับขี่เป็นหลัก และสไตล์คัสตอมสุดเท่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Speedmaster, Thruxton RS, Speed Twin 900, Speed Twin 1200, Scrambler 900, Scrambler 1200 และ Bonneville T120 และ T100 อันเป็นเอกลักษณ์
ตระกูล Roadsters เริ่มต้นด้วย Trident 660 และ Daytona 660 ที่คล่องตัวและเป็นที่นิยม ตามด้วย Street Triple 765 และปิดท้ายด้วย Speed Triple 1200 RS และ RR สำหรับนักขี่ในกลุ่ม Adventure Triumph มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Tigers ระดับตำนานครบทุกรุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ Tiger Sport 660 ไปจนถึงกลุ่ม Tiger Sport 800 และ Tiger 900 และสุดท้ายคือกลุ่ม Tiger 1200
ในปี 2023 ไทรอัมพ์ ได้ประกาศ การทำลายสถิติที่สุดของโลก “กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด” (GUINNESS WORLD RECORDS™) ครั้งใหม่อย่างเป็นทางการ สำหรับการขี่รถจักรยานยนต์รายบุคคลระยะทางไกลที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยไทรอัมพ์รุ่น Tiger 1200 GT Explorer บนสนามทดสอบความเร็วสูง
Nardò Technical Center ในอิตาลี โดยอิวาน เซร์บันเตส (Iván Cervantes) แชมป์โลก Enduro 5 สมัย และ ไทรอัมพ์ โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์ (Triumph Global Ambassador) ที่สามารถทำสถิติระยะทางรวมมากกว่า 4,012 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมที่ 3,406 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้กว่า 600 กิโลเมตร
ไทรอัมพ์ เรซซิ่ง
Triumph มีประวัติศาสตร์การแข่งรถอันรุ่งโรจน์ โดยเข้าแข่งขันและชนะการแข่งขันในเกือบทุกประเภทและทุกสาขา ซึ่งนับเป็นความสำเร็จด้านการแข่งขันรถจักรยานยนต์สาย Sport
นับตั้งแต่การคว้าแชมป์ Isle of Man TT ครั้งที่สองในปี 1908 ไปจนถึงความสำเร็จบนท้องถนนและสนามแข่งในยุค 1960 ทั้งในยุโรป
และอเมริกา ไปจนถึงความสำเร็จในการแข่งรถร่วมสมัยด้วยรถ Triumph รายการ SuperSport และ World SuperSport racing ในปี 2014 และ 2015
ชัยชนะรายการ Isle of Man SuperSport TT ในปี 2014 และ 2019 โดย Gary Johnson และ Peter Hickman บวกกับความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 130 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 2023 โดย Peter Hickman บน Triumph STR765 ของเขา ตลอดจนชัยชนะรอบสุดท้ายอันน่าตื่นเต้นในการแข่งขัน Daytona 200 ในตำนาน
โดย Brandon Paasch บน Street Triple 765 ในปี 2022
ตำนานการแข่งรถของ Triumph ยังคงดำเนินต่อไปในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์แต่เพียงผู้เดียวในการแข่งขัน FIM Moto2™ World Championship นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2019 Triumph Motorcycles มอบเครื่องยนต์สามสูบ 765cc ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการแข่งขันให้กับทุกทีม โดยแต่ละคันมีพื้นฐานมาจาก
ขุมพลัง Street Triple RS ชั้นนำของคลาส นิยามใหม่ของคลาสนี้ Triumph ทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าในปีแรก รวมถึงความเร็วสูงสุด Moto2™ ที่ +300 กม./ชม. เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือที่ Triumph มีกับนักบิดและทีมของพวกเขา
และการตอบรับอย่างเหลือเชื่อจากแฟน ๆ Triumph ทั่วโลก ทำให้ Triumph และ Dorna ตัดสินใจขยายความสัมพันธ์ในปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023
ด้วยการลงนาม สัญญาฉบับใหม่ต่อการแข่งขันอีก 5 ปี (2025-2029)
Triumph กำลังทำงานร่วมกับ PTR Triumph Factory Racing เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน World Supersport Championship ประจำปี 2025 โดยมี Tom Booth-Amos และ Oli Bayliss ร่วมแข่งขันด้วย Street Triple 765 ซึ่ง Macadam Triumph Factory Racing ยังคงดำเนินต่อไปโดยมี Luke Stapleford (รองแชมป์ประจำปี 2024) และ Max Wadsworth นักบิดจาก British Supersport เข้าร่วมในการแข่งขัน National Sportbike Championship โดยทีมมีนักบิด 4 คนในการแข่งขันด้วย Daytona 660 ได้แก่ Brodie Gawith, Jayden Martin, Katie Hand และ Lewis Smart
ในปี 2023 Triumph ประกาศความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน MXGP/MX2 และ SuperMotocross World Championships ในปี 2024 และหลังจากฤดูกาลแรกที่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้พวกเขาเตรียมลงแข่งขัน SuperMotocross ในปี 2025 กับทีมนักแข่ง 4 คน ได้แก่ Jalek Swoll, Austin Forkner, Jordon Smith และ Stilez Robertson จะแข่งให้กับผู้ผลิตจากอังกฤษ ซึ่งจะลงแข่งในทั้งสองฝั่งของ Supercross และซีรีส์ Pro Motocross เต็มรูปแบบด้วย TF 250-X ในการแข่งขัน FIM MX2 World Championship Camden McLellan โดยจะแข่งขันเป็นปีที่สองด้วยรถจักรยานยนต์ Triumph ในขณะที่ Guillem Farres เข้าร่วมทีม และ Mikkel Haarup ยังคงเป็นนักบิดทดสอบ (เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านอายุในประเภท MX2)
ในเดือนกันยายน 2024 Triumph เผยตำนานมอเตอร์สปอร์ตและอดีตแชมป์โลก Paul Edmondson ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมโปรแกรม Enduroของ Triumph Racing อย่างเป็นทางการ ซึ่งแบรนด์นี้จะเข้าร่วมการแข่งขัน Enduro ระดับโลก โดยในเดือนธันวาคม 2024 Jonny Walker ขึ้นโพเดียมในการแข่งขัน FIM SuperEnduro World Championship ครั้งแรกของ Triumph ด้วยอันดับที่สาม ที่เมือง Gliwice ประเทศโปแลนด์ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่เขาทำได้อีกครั้งในรอบที่สองในเดือนมกราคม ที่เมือง Riesa ประเทศเยอรมนี
0 Comments