ประสบการณ์ไร้รอยต่อแก่ผู้ขับขี่ด้วยบริการหลังการขาย
• โรยัล เอ็นฟีลด์ จัดการแข่งขันทักษะทางเทคนิค "Supersquad" สำหรับช่างเทคนิคจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
• ปัจจุบัน โรยัล เอ็นฟีลด์ มี Exclusive Stores จำนวน 60 แห่ง และร้านค้าแบบ MBO จำนวน 135 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รวม 27 ร้านค้า + 9 MBO ในประเทศไทย)
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 17 กุมภาพันธ์ 2568: โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริการหลังการขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งริเริ่มโครงการใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
ล่าสุด Royal Enfield ได้เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ศูนย์ฝึกอบรม “POWERTRAIN” นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการฝึกอบรมเชิงเทคนิคในห้องเรียน โดยเน้นไปที่ทีมช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ รวมถึงที่ปรึกษาการบริการ ผู้จัดการฝ่ายบริการ ผู้จัดการรับประกันและอะไหล่ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติที่ครบครันด้วยรถจักรยานยนต์รุ่นปัจจุบันและเครื่องยนต์เฉพาะรุ่นสำหรับการฝึกใช้งานจริง
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์ และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ โดยโรยัล เอ็นฟีลด์ได้จัดโครงการ Supersquad สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการแข่งขันทักษะประจำปีในหมู่ช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ทั่วภูมิภาค เพื่อทดสอบความสามารถด้านเทคนิค การแก้ไขปัญหา และการประเมินสภาพรถ โดยมีช่างเทคนิคจำนวน 314 คนจาก 11 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน และผู้ชนะในแต่ละประเทศจะเข้าร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ณ ประเทศไทย
โครงการ Supersquad ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการยกระดับความสามารถทางเทคนิคและมาตรฐานการดำเนินงาน โดยการให้โอกาสแก่เหล่าช่างเทคนิคในการแสดงความเชี่ยวชาญของตน งานนี้ได้เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่น และความภักดีในกลุ่มลูกค้าทั่วโลกของโรยัล เอ็นฟีลด์ นอกจากนี้ ผู้ชนะและรองชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลและของที่ระลึก เพื่อเฉลิมฉลองการมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์
การแข่งขัน Supersquad 2025 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ที่มุ่งมั่นในการเสริมพลังให้กับทีมงานบริการ และการกำหนดมาตรฐานใหม่ในความเป็นเลิศทางเทคนิค โดยการรวมผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตในวิชาชีพ กิจกรรมนี้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการมอบมาตรฐานการบริการที่ไม่มีใครเทียบได้
โรยัล เอ็นฟีลด์ขอแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน รวมถึงผู้ชนะและรองชนะเลิศสำหรับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมใน Supersquad 2025 ความมุ่งมั่นและทักษะของพวกเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจและยกระดับตำนานความเป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์
Supersquad 2025 เป็นเวทีกำหนดมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด ช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับดีลเลอร์และผู้จัดจำหน่าย ส่งต่อความไว้วางใจและความพึงพอใจของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผู้เข้าร่วมยังได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการบริการขั้นสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพการบริการที่มีประสิทธิภาพ ยืนยันความเป็นผู้นำของโรยัล เอ็นฟีลด์ในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยล่าสุด ช่างเทคนิคจากเกาหลีใต้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศในระดับเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ช่างเทคนิคจากประเทศไทยได้รับรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทั้งสองท่านจะเป็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการแข่งขัน Supersquad 2025 ระดับโลกที่ประเทศอินเดียในอนาคต โครงการนี้มุ่งเน้นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ “First Time Right” และ “Reasonable Service Time” ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของโรยัล เอ็นฟีลด์ในการมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า และสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในตลาดหลักทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเพิ่มการเข้าถึงให้ดียิ่งขึ้น
#####
เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:
Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย เสน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ รุ่นใหม่ไฟฟ้า, Flying Flea - ประกอบด้วย Classic-styled Flying Flea C6 และ Scrambler-styled Flying Flea S6 ที่เปิดตัว ณ เมืองมิลาน อิตาลี อีกทั้งยังมี the, Bear 650, Classic 650, Guerrilla 450 modern roadster, Hunter 350, Meteor 350, Super Meteor 650, Interceptor 650 และ Continental GT 650 twins, the Shotgun 650, the new Himalayan adventure tourer, the Scram 411 ADV Crossover, the iconic Bullet 350, Classic 350 and the new Goan Classic 350. ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลากหลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐโกอา ประเทศอินเดีย และยังมีงาน Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ผ่านภูเขาที่สูงที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจได้มากที่สุดเช่นกัน
Royal Enfield คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,000 แห่ง ทั่วเมืองใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีการส่งออกไปสู่ 850 สโตร์ในอีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เนปาล บราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย
0 Comments