Thai Health Day Run 2024
วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่กระตุ้นนักวิ่งหน้าใหม่
ก่อนลงสนาม 8 ธ.ค.นี้ @สะพานพระราม 8
เวลา 13.30 น. วันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า 5 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์กิจกรรมทางกายที่เพียงพอของคนไทย โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กระทรวงสาธารณสุข พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้ชีวิต ส่งผลให้ระดับการมีกิจกรรมทางกายลดลงจาก 74.6% ในปี 2562 เหลือ 54.3% ในปี 2563 สสส. ได้เร่งสานพลังภาคีเครือข่ายรณรงค์ส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่บ้าน (Fit from Home) รวมถึงออกแบบและพัฒนาพื้นที่สาธารณะที่เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย ทำให้ในปี 2565-2566 ระดับการมีกิจกรรมทางกายขยับเพิ่มเป็น 62% และ 68.1% ตามลำดับ
“การจัดกิจกรรมครั้งนี้มุ่งเป้าให้เกิดนักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างสังคมกระฉับกระเฉง ให้อัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต
“การจัดกิจกรรมครั้งนี้มุ่งเป้าให้เกิดนักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างสังคมกระฉับกระเฉง ให้อัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
บรรยากาศงานแถลงข่าว มีผู้สนใจร่วมกิจกรรมมาร่วมงานคับคั่ง โดยเฉพาะนักวิ่งจากชมรมต่างๆ อีกทั้งยังเสริมกิจกรรมแชร์เทคนิค การเตรียมความพร้อมของร่างกาย เพิ่มความแข็งแรง ด้วยกิจกรรมทางกายกับการเตรียมความพร้อม 8 สัปดาห์สู่การเดิน-วิ่ง Thai Health Day Run 2024 12th Anniversary
เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง โดยได้รับเกียรติจาก นพ.ภัทรภณ อติเมธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช มาให้ความรู้การเตรียมความพร้อมแบะความฟิตของร่างกาย 8 สัปดาห์สู่การเดิน-วิ่ง Thai Health Day Run 2024, พ.ต.ต. นพ. วรพล เจริญพร ศัลยแพทย์เฉพาะทางกระดูก และข้อผ่าส่องกล้อง โรงพยาบาลตำรวจ มาให้ความรู้เรื่องการเดิน-วิ่ง ช่วยเสริมข้อต่อและกระดูกได้อย่างไร และ ดร,เจษฏา อานิล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาพูดถึงการออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง และความฟิตของร่างกาย ส่งผลดีต่อสมองอย่างไร
ทั้งนี้ กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 8 ธ.ค. 2567 ที่สะพานพระราม 8 และสวนหลวงพระราม 8 กรุงเทพฯ มีระยะทาง 3 ระยะ ได้แก่ 10 กม. ปล่อยตัว 05.00 น. 5 กม. ปล่อยตัว 05.05 น. และเดินเพื่อสุขภาพ 3 กม. ปล่อยตัว 05.10 น. เปิดรับสมัครนักวิ่งเข้าร่วม 3,500 คน ค่าสมัคร 300 บาท ทุกระยะ
สนใจสมัครวิ่งและติดตามรายละเอียดได้ที่ https://race.thai.run/ และ
เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thai Health Day Run 2024
#ThaiHealthDayRun2024
#ประธานสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย
#กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
Footage : แถลงข่าว วิ่ง "Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่"
https://youtu.be/TpB4Wk_yuPM?si=-MxvKkerlxwLpKeT
https://youtu.be/SC0Fn0AbINg?si=b5yDaFQeqQ4-4Vjm
https://youtu.be/zpgDQXiZJfg?si=9EmG1RUnjiq3LfH3
https://youtu.be/-zE3SHKBa0E?si=NUQPFqp0NfR3nCZz
0 Comments