ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สนับสนุน
สาธารณสุขแบบยั่งยืน และต้องการให้เกิด
การนำมาใช้อย่างเร่งด่วน
• กว่า 90% มองว่าบทบาทของเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในการบริการด้านสาธารณสุข
• คนไทยส่วนใหญ่เห็นว่าความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศและสุขภาพส่วนบุคคลมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลรุ่นใหม่ (71%) และมิลเลนเนียลรุ่นเก่า (65%)
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีสุขภาพ เผยผลสำรวจเกี่ยวกับ “สาธารณสุขแบบยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)” ซึ่งจัดทำโดย Kantar Profiles Network โดยสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาค 3,040 คน จากประเทศออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และประเทศไทย การสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงมุมมองของประชาชนต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในวงการสาธารณสุข และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดกลยุทธ์ให้กับระบบสุขภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งมอบบริการสุขภาพที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในวงการสาธารณสุขควรได้รับความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
ในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทย กลุ่มมิลเลเนียลให้ความสำคัญต่อสาธารณสุขแบบยั่งยืนมากที่สุดถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มช่วงอายุอื่น ในขณะเดียวกันกว่า 40% ของกลุ่มมิลเลเนียลยังเห็นว่าสาธารณสุขแบบยั่งยืนเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ควรนำมาปฏิบัติอย่างกว้างขวาง ในขณะที่กลุ่มอายุอื่นเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน
เกือบทั้งหมด (93%) ของผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเห็นว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขแบบยั่งยืน โดยผลลัพธ์จากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงการสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ได้แก่ การจัดการทรัพยากรด้านสาธารณสุขได้ดีขึ้นผ่านการใช้งานและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ (27%), การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น (25%), ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดการใช้ทรัพยากรจากการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัล หรือการใช้โซลูชันคลาวด์ หรือการดูแลรักษาผ่านระบบออนไลน์ (20%)
นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพส่วนบุคคลกับสิ่งแวดล้อม และเห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรมและการนำแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขแบบยั่งยืนมาใช้ให้เกิดจริง ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขสามารถดูแลผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมของโลกเรา ผ่านการออกแบบ นวัตกรรม และความยั่งยืน ภายใต้แคมเปญ 'Care Means the World' เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงความคาดหวังของผู้คนด้านสาธารณสุขแบบยั่งยืน เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบนิเวศด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำไปสู่การดูแลรักษาในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน"
ผลสำรวจในประเทศไทยระบุว่า มีความตระหนักถึงแนวทางการดำเนินการแบบหมุนเวียน (Circularity) มากขึ้น ได้แก่ การรีไซเคิล (41%) และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (41%) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขแบบยั่งยืนที่คนไทยตระหนักถึงมากที่สุด สำหรับการเข้ารับคำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านระบบออนไลน์มีการตระหนักถึงในระดับปานกลาง นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจในไทยยังตระหนักถึงระบบสาธารณสุขแบบหมุนเวียน (37%), ส่งเสริมความรู้เรื่องโรคและการตรวจคัดกรอง (37%) รวมถึงการกำจัดและการจัดการขยะอันตรายอย่างเหมาะสม (36%)
ของฟิลิปส์ในการดูแลผู้คน ผู้ป่วย และโลกใบนี้
ด้วยการส่งเสริมสาธารณสุขแบบยั่งยืน
ช่องว่างในการนำสาธารณสุขแบบยั่งยืนมาลงมือปฏิบัติอย่างเร่งด่วน
7 ใน10 หรือ 69% ของผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมองว่าแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขแบบยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน แต่มีเพียง 15% เท่านั้นที่ระบุว่ามีการนำสาธารณสุขแบบยั่งยืนมาใช้ในประเทศของตนเป็นวงกว้างแล้ว
ในประเทศไทย อุปสรรคหลักในการนำสาธารณสุขแบบยั่งยืนไปใช้จริง ได้แก่ การเข้าถึงบริการสาธารณสุขแบบยั่งยืน (41%), ต้นทุนที่สูงขึ้น (37%) และขาดแรงจูงใจด้านการเงิน (36%) นอกจากนี้ หลายคนยังกล่าวว่าการนำความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนไปสู่ระบบสาธารณสุขขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างซับซ้อนใช้เวลานาน (34%) และพวกเขายังมีความตระหนักน้อยเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเมื่อเปรียบเทียบระหว่างระบบสาธารณสุขแบบเดิมกับแบบยั่งยืน (34%) อุปสรรคอื่นๆ อาทิ กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลเมื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และความเคยชินในการปฏิบัติแบบเดิมส่งผลต่อการนำแนวทางปฏิบัติแบบใหม่มาใช้ให้เป็นเรื่องยากขึ้น
นอกจากนี้ 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจในไทยเลือกที่จะเข้ารับคำปรึกษาด้านสุขภาพแบบพบหน้า ขณะที่อัตราการรับคำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านทางออนไลน์ในกลุ่มมิลเลเนียล (มากกว่า 40%) สูงกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ตอบแบบสำรวจเลือกรับคำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านทางออนไลน์ในทุกกลุ่มอายุ เพราะการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ส่วนเหตุผลหลักในการรับคำปรึกษาด้านสุขภาพแบบพบหน้าในทุกกลุ่มอายุ คือ การได้รับการตรวจรักษาโดยตรง และการได้พูดคุยแบบตัวต่อตัว
การเข้าถึงตัวเลือกบริการสาธารณสุขแบบยั่งยืนได้มากขึ้น (46%) เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะก่อให้เกิดการปฏิบัติตามแนวทางความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การให้ความรู้ (45%) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดสาธารณสุขแบบยั่งยืน เนื่องจากผู้ตอบแบบสำรวจต่างเห็นว่าการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ให้มากขึ้น จะทำให้พวกเขารู้ว่าหลักปฏิบัติง่ายๆ ใดที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อสนับสนุนสาธารณสุขแบบยั่งยืน และปัจจัยอื่นๆ (44%) จะช่วยให้พวกเขามีความรู้และความเข้าใจที่จำเป็นในการสนับสนุน, ดำเนินการ และการนำแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนมาใช้
ความร่วมมือเป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และเพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบนวัตกรรมอย่างยั่งยืนจะช่วยผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขและผู้ป่วยเอง สามารถมีส่วนในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ และเพื่อให้สอดคล้องกับการสนับสนุนแนวทางสาธารณสุขแบบยั่งยืน ผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข บริษัทเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ รัฐบาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงควรจะร่วมมือกันในการวางกลยุทธ์ พัฒนาโซลูชัน และบริการที่เหมาะสม
ฟิลิปส์ ร่วมกับผู้ให้บริการสาธารณสุขและพันธมิตรของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนผ่านโซลูชันส์แบบหมุนเวียน (circular solutions), นวัตกรรม (innovations) และการให้ความรู้ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานด้านความยั่งยืน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Philips’ ESG goals and environmental efforts.
# # # #
เกี่ยวกับ รอยัล ฟิลิปส์
รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) เป็นบริษัทชั้นนำด้านานเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนผ่านนวัตกรรมอันทรงคุณค่า นวัตกรรมของฟิลิปส์ถูกคิดค้นและออกแบบโดยคำนึงถึงตัวผู้ป่วยและคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึกด้านคลินิกประกอบกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อส่งมอบโซลูชันส์เพื่อการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลสำหรับผู้บริโภค และโซลูชันส์เพื่อการดูแลสุขภาพระดับมืออาชีพสำหรับผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขและการให้บริการผู้ป่วยทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลิปส์ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้นำด้านเครื่องมือทางการแพทย์ด้านการตรวจวินิจฉัยทางรังสี, อัลตราซาวด์, Image Guided Therapy, เครื่องติดตามสัญญาณชีพ และระบบข้อมูลสารสนเทศ รวมถึงด้านสุขภาพส่วนบุคคล โดยในปีค.ศ. 2023 ฟิลิปส์มียอดขายทั่วโลกกว่า 18.2 พันล้านยูโร และมีพนักงานประมาณ 69,700 คน ในการดำเนินธุรกิจกว่า 100 ประเทศ สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลิปส์ได้ที่ www.philips.com/newscenter
0 Comments