Ad Code

Recent Posts

เสียงเตือนของธรรมชาติ คือ สัญญาณที่โลกแสดงออกมา ถึงเวลาที่มนุษยชาติ ต้องเอาใจใส่รักษ์โลก


เสียงเตือนของธรรมชาติ คือ สัญญาณที่โลกแสดงออกมา
ถึงเวลาที่มนุษยชาติ ต้องเอาใจใส่รักษ์โลก

ปัจจุบัน “โลก” ของเราเต็มไปด้วยวิกฤตการณ์ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่ ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งเดียว เพราะแต่ละปีที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับภัยคลื่นความร้อนรุนแรงแผ่ปกคลุมที่ประเทศฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ทำให้มีคำสั่งปิดโรงเรียน สาเหตุจากอากาศ ร้อนจัด น้ำท่วมและดินถล่มบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนกว่า 700 แห่ง หรือที่โอมานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกฝนถล่มหนักในรอบ 75 ปี ทำให้นครดูไบซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ยังถูกน้ำท่วมเช่นกัน รันเวย์ของสนามบินถูกน้ำท่วมหนัก เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 300 เที่ยว และเมื่อเร็วๆนี้ กับเหตุการณ์เครื่องบินจากสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ มีคนเสียชีวิต จึงต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้วิกฤตใต้ท้องทะเลก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน เมื่อ NOAA ประกาศภาวะ "ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่" รอบที่ 4 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลก และปรากฏการณ์เอลนีโญ ยังมีหลายเหตุการณ์ที่แสดงถึงสัญญาณที่ธรรมชาติได้เตือน ให้มนุษย์หันมารักษาโลกนี้ไว้ก่อนจะสายเกินไป


สำหรับประเทศไทยนั้นกำลังประสบปัญหา ฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลให้สภาพแวดล้อมย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุเกิดจากชั้นบรรยากาศได้ถูกทำลาย ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มสูงขึ้นที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการกระทำของมนุษย์ เช่น ตัดต้นไม้ ทำลายป่า การทิ้งขยะโดยไม่มีการจัดการ ฯลฯ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์เราเอง จึงไม่แปลกที่จะเห็นธรรมชาติเริ่มส่งสัญญาณเตือนที่มาในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เช่น ไฟป่า น้ำท่วม ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นการบอกเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องหันมาใส่ใจและแก้ปัญหาเรื่องนี้แบบจริงจัง

ปัจจุบันมีองค์กร หรือบริษัทหลายแห่งให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กันมากขึ้น และมีงานและกิจกรรมที่เกี่ยวกับความยั่งยืนเกิดขึ้นมากมาย งาน SX หรือ SUSTAINABILITY EXPO เป็นอีกหนี่งมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุด ในอาเซียน เป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือขององค์กรชั้นนำระดับภูมิภาคและระดับโลก นำโดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศที่จะมาร่วมกันสร้างพลัง และปลุกกระแสด้านความยั่งยืนในมิติต่างๆ


โดยภายในงาน ได้นำเสนอความสำคัญของด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยการกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำจริง อาทิ โซน Better Living ที่นำเสนอการดำเนินการเพื่อส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำเสนอแนวทางการจัดการทรัพยากรน้ำ การจัดการก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net-Zero) บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด มาพูดถึงเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอัพไซคลิ่ง (Upcycling) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน กระบวนการรีไซเคิล PET ที่คนไทยกำลังได้ใช้กันจากขวด น้ำดื่มของแบรนด์ดังต่างๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัล SX Shaper Award ให้แก่บุคคลที่ลงมือทำงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อยกย่อง อาทิ ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ต่อสู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

และยังมีกิจกรรมที่ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมมากมาย อาทิ SX FOOD FESTIVAL มีการแยกทิ้งอาหารอย่างถูกวิธีผ่าน “Food Waste Station” หรือจุดคัดแยกขยะเศษอาหาร ประจำตามจุดต่าง ๆ SX REPARTMENT STORE ที่เปิดให้คนที่อยากนำของที่ไม่ได้ใช้แล้วมาแบ่งปันเพื่อส่งต่อ ซึ่งของเหล่านั้นสามารถ Reduce, Reuse และ Recycle เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและสังคมไร้ขยะที่ยั่งยืน ล่าสุดกับกิจกรรมที่ขยายผลจากงาน SX คือกิจกรรม “SX FRIENDS of NATURE” แบ่งเป็น 3 กิจกรรม ‘SX NATURE WALK’ สัมผัสธรรมชาติไปพร้อมกับการเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพต้นไม้ผ่านสวนใหญ่ใจกลางกรุงลุมพินี-เบญจกิติ ‘SX KIDS CLIMBING’ เปิดโลก Adventure ท่ามกลางธรรมชาติในกรุง กับกิจกรรมปีนต้นไม้ และ ‘SX NATURE WALK’ สำรวจธรรมชาติของสวนเบญจกิติยามค่ำคืน ซึ่งทั้งหมดเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมเด็กและเยาวชนเห็นความสำคัญของระบบนิเวศ เรียนรู้วิถีชีวิตของธรรมชาติด้วยการสำรวจศึกษาธรรมชาติ แบบใกล้ชิดและเจาะลึกและปลูกฝังเยาวชนให้มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อมนำไปสู่กับทำให้เกิดการปฏิบัติจริง ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงมือทำจริงที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

สำหรับ งาน SUSTAINABILITY EXPO ปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 6 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเล็กๆ ที่ส่งผลให้เกิดล้านพลังยิ่งใหญ่ ชวนมา “ลงมือทำจริง” และร่วมกันสร้างอนาคตให้โลกใบนี้น่าอยู่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เพื่อความยั่งยืนได้ตลอดทั้งปีได้ที่ www.sustainabilityexpo.com , Facebook : Sustainability Expo และแอปพลิเคชัน SX

Post a Comment

0 Comments

Comments

Ad Code