ความนิยมปิ้งย่างและอาหารเกาหลี
พร้อมนำกลุ่มธุรกิจอาหารสำเร็จรูปสไตล์เกาหลีบุกตลาดตปท.
ธุรกิจอาหารเกาหลียังมาแรงทั้งตลาดในและต่างประเทศ ผู้บริหารซูกิชิ เผยนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศสนใจแฟรนไชส์ ร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี Sukishi Korean Charcoal Grill พร้อมเปิดตัวแฟรนไชส์ชานมไต้หวัน กลุ่มธุรกิจสินค้าสำเร็จรูปสไตล์เกาหลี ชูจุดขายผลิตภัณฑ์กิมจิผักกาดขาว ยอดขายอันดับ 1 และสินค้าใหม่ 40 รายการ
คุณนพดล จิรวราพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้นำธุรกิจร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี พร้อมชูความพร้อมในการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าสำเร็จรูปสไตล์เกาหลี ที่มีประสบการณ์กว่า 24 ปี พร้อมมาตรฐานโรงงานระดับสากล รองรับทั้ง OEM การจำหน่ายในประเทศและการส่งออกต่างประเทศ ทั้ง ISO22000 GHPs และHaccp ในงานนี้ซูกิชิยังเปิดตัวสินค้าใหม่มากกว่า 40 รายการ
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี Sukishi Korean Charcoal Grill และร้านชานมไต้หวัน Wawacha Fresh เข้ามาศึกษาข้อมูลโดยจะมีทีมงานที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านอาหารคอยให้คำปรึกษา
สำหรับภาพรวมของบริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ประกอบด้วย ธุรกิจปิ้งย่างและอาหารเกาหลี ได้แก่ ร้าน Sukishi Korean Charcoal Grill ร้าน Woogogi ร้าน Sukishi Everyday และร้านชานมไต้หวัน Wawacha Fresh ธุรกิจสินค้าสำเร็จรูปสไตล์เกาหลี ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีสัดส่วนรายได้ 84% : 7% : 9% ตามลำดับ โดยปีนี้คาดว่าภาพรวมบริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโต 24% รายได้รวมโดยประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มมีแผนที่จะเปิดร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี Sukishi Korean Charcoal Grill 10 สาขาทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ส่วนร้านชานมไต้หวัน Wawacha Fresh ประมาณ 1-2 สาขา การที่บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีในธุรกิจกลุ่มแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มนั้น เพราะกลุ่มธุรกิจนี้มีจุดแข็งในเรื่องของสินค้าและบริการ คุณภาพวัตถุดิบ ความหลากหลายของเมนู รวมถึงยังมีองค์ความรู้เรื่องประกอบธุรกิจปิ้งย่าง การให้คำปรึกษาในระบบความปลอดภัย และการบริหารจัดการร้าน พร้อมทั้งสนับสนุนแฟรนไชส์ด้วยระบบมาตรฐานสากล จึงทำให้ครึ่งปีแรกนี้ในส่วนของแฟรนไชส์ในประเทศค่อนข้างได้รับการตอบรับที่เกินเป้าหมายที่วางไว้
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจสินค้าสำเร็จรูปสไตล์เกาหลีในประเทศ เชื่อว่ายังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคชาวไทยเปิดรับวัฒนธรรมจากเกาหลีโดยเฉพาะเรื่องของอาหาร บริษัทฯ มีสินค้าอาหารสำเร็จรูปสไตล์เกาหลี กว่า 100 รายการได้แก่ กิมจิและผักดองต่างๆ น้ำจิ้ม ซอสสไตล์เกาหลีต่างๆ และในปีนี้มีอาหารเกาหลีพร้อมทานใหม่ๆมากมายที่อร่อยและทานได้สะดวกรวมไปถึงเนื้อสัตว์ดองซีอิ๊วเกาหลี เนื้อสัตว์หมักซอสแช่แข็ง ซึ่งสินค้าถูกพัฒนามาจากเทรนด์ของอาหารเกาหลีผสานกับความต้องการของผู้บริโภคโดยเราใช้ข้อมูลความนิยมของรสชาติและเมนูอาหารจากร้านอาหารในเครือของซูกิชิ และการทดสอบแบบกลุ่มกับผู้บริโภคเพื่อนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อการแข่งขันในตลาดนี้ โดยผลิตภัณฑ์กิมจิผักกาดขาวของซูกิชิ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม เป็นที่คุ้นเคยของผู้บริโภค วางจำหน่ายเป็นแบรนด์แรกๆในประเทศไทย ซึ่งสินค้าได้รับการคิดค้นและพัฒนาสูตรจากผู้เชี่ยวชาญด้านกิมจิโดยเฉพาะ หมักแบบธรรมชาติ ซอสเข้มข้นครบรสตามสไตล์เกาหลี ไม่ใส่น้ำส้มสายชูและวัตถุกันเสีย เราเน้นย้ำทั้งเรื่องสูตรสินค้า ขั้นตอนการผลิตที่ดี บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติของสินค้าจนถึงมือผู้บริโภค
ในปัจจุบันช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารสำเร็จรูปสไตล์เกาหลีของซูกิชิ แบ่งออกเป็นธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV 75% ร้านซูกิชิและช่องทางออนไลน์ 25% รวมถึงบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มร้านค้าปลีก (Retail) ต่างๆเพิ่มขึ้น รวมทั้งในปีนี้จะขยายเข้าร้านค้าส่ง (Wholesale) และโฮเรก้า (HORECA) เพิ่มขึ้น และในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้จะขยายตลาดไปยังทวีปยุโรป อเมริกาและเอเซีย เพราะผู้บริโภคตลาดนี้มีความชื่นชอบอาหารเกาหลีและมีผู้ประกอบการต่างประเทศสนใจในสินค้ากลุ่มกิมจิมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯยังมีนโยบายที่จะเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ทั้งรูปแบบอาหารว่างและการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล เนื่องจากไลฟ์สไตล์การจัดงานเลี้ยงเปลี่ยนไป ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นโดยอาหารว่างจะเริ่มต้นที่ราคา 79 บาท ส่วนการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โดยจะเน้นอาหารเกาหลีเป็นหลัก ซึ่งไม่มีผู้ประกอบการใดทำในรูปแบบนี้ ถือเป็นจุดแข็งและช่องทางธุรกิจที่จะเติบโตได้ในอนาคต
................................................................................
0 Comments