ในงาน บางกอก ฮอตรอด คัสตอม โชว์ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567
● รถจักรยานยนต์คัสตอม 6 รุ่น ที่จัดแสดงในงาน Hot Rod Custom Show สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจากรุ่น Interceptor, Hunter, SCRAM 411 และ Continental GT
● ผู้เข้าชมงานสามารถชมการเพ้นท์ลาย Pinstriping สด และการเพ้นท์หมวกกันน็อคได้ที่บูธ
กรุงเทพฯ, 29 พฤษภาคม 2567 - โรยัล เอ็นฟิลด์ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังคงเดินหน้าการผลิตอย่างต่อเนื่อง ได้กลับมาเข้าร่วมงาน Bangkok Hot Rod Custom Show 2024 พร้อมกับรถจักรยานยนต์คัสตอมหลากหลายรุ่น โดยการคัสตอมนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น Interceptor, Hunter, SCRAM 411 และ Continental GT ร่วมกับสายคัสตอมชื่อดัง เช่น Apollo Garage, OK Easy, Secret Deal Garage จากประเทศไทย, Bombay Custom Works จากอินเดีย, Rough Crafts จากไต้หวัน และ King Nerd จากสหราชอาณาจักร
ในประเทศไทย วัฒนธรรมการปรับแต่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ ตั้งแต่การตกแต่งรถสองล้อด้วยการอัพเกรดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความสวยงามและการใช้งาน ไปจนถึงการปรับแต่งรถจักรยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีรถจักรยานยนต์คันไหนที่เหมือนกัน สิ่งนี้ส่งผลให้ชุมชนผู้สร้างรถคัสตอมเติบโตขึ้นและเป็นที่นิยม เช่น Zeus Custom, K-Speed, Ranger Korat, Ok Easy Shop, Apollo Garage และอื่นๆ อีกมากมาย
“โรยัล เอ็นฟิลด์ มุ่งเน้นที่จะเป็นพันธมิตรกับนักขับขี่รถจักรยานยนต์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจหรือการแสดงออกถึงตัวตน กลุ่มรถจักรยานยนต์คัสตอมที่น่าประทับใจของ โรยัล เอ็นฟิลด์ เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่ารถจักรยานยนต์ของเราคือศูนย์รวมงาน ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการปรับแต่ง ทั้งโครงสร้างที่แข็งแรง การออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีความหลากหลาย และความงดงามที่ยั่งยืนของ โรยัล เอ็นฟิลด์ เป็นสิ่งที่ผู้สร้างรถคัสตอมชื่นชม และคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้รถจักรยานยนต์เป็นพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการปรับแต่ง โรยัล เอ็นฟิลด์ สร้างรถจักรยานยนต์ทุกคันด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและเครื่องจักรที่ทนทานเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เราเชื่อว่าการปรับแต่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับขี่ที่สนุกสนาน และด้วยวิสัยทัศน์นี้ โรยัล เอ็นฟิลด์ จึงสนับสนุนผู้สร้างและนักขับขี่ให้แสดงออกถึงบุคลิกและความคิดสร้างสรรค์โดยการสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก การเข้าร่วมงาน Bangkok Hot Rod Custom Show อย่างต่อเนื่องเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมของ โรยัล เอ็นฟิลด์ เพื่อสนับสนุนผู้สร้าง รถคัสตอมในประเทศไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างและคอมมูนิตี้เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างสรรค์สายนักบิดที่ชื่นชอบรถสองล้อ" คุณ อนุจ ดัว - หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (Head of Business, Royal Enfield-APAC) กล่าว
"ความท้าทายในการสร้างสรรค์โรยัล เอ็นฟิลด์ รุ่น Interceptor 650 คือ การสร้างความโดดเด่นที่ทำให้ทุกคนหันมามองในขณะที่ยังคงความสง่างามที่เป็นอมตะของรถจักรยานยนต์คลาสสิก ไอเดียของลูกค้าชัดเจนเรื่องการคัสตอมที่เป็นเอกลักษณ์ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ที่เป็นไอคอนของอดีต แต่ยังคงไว้ซึ่งการขับขี่ในเมืองได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังต้องคงโครงเดิมของ Interceptor ไว้เพื่อรักษาหัวใจและจิตวิญญาณของโรยัล เอ็นฟิลด์ หลังจากการออกแบบที่พิถีพิถันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ รวมทั้งการประดิษฐ์และการตกแต่งอย่างละเมียดละไมเป็นเวลาเกือบสองเดือน การคัสตอมก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่เสร็จสมบูรณ์เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการผสมผสานระหว่างตำนานที่คลาสสิคและนวัตกรรม เป็นรถสะท้อนความสวยงามด้วยรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสามารถใช้งานได้จริง ผลลัพธ์สุดท้ายคือการสร้างคัสตอมที่ไม่เพียงตอบโจทย์ลูกค้า แต่ยังเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและสไตล์ที่เป็นอมตะซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ โรยัล เอ็นฟิลด์" OK Easy ประเทศไทย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมี รถคัสตอมจากต่างประเทศมาร่วมอวดโฉม อาทิ King Nerd HNTR งานศิลป์เหนือกาลเวลากับโปรเจ็กต์ Hunter x King Nerd ซึ่งวิสัยทัศน์ของจอห์นนี่ โดเวลล์ ศิลปินในลอนดอนมาบรรจบกับ Hunter 350 ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Royal Enfield ผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของจอห์นนี่ โดยแสดงความเคารพต่อถนนที่หล่อหลอมความเป็นเขา ตั้งแต่ล้ออะลูมิเนียมขัดเงาไปจนถึงแผ่นโลหะที่แกะสลักด้วยมือ ทุกรายละเอียดสะท้อนถึงความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ King Nerd ด้วยการทำสีแบบคัสตอม ส่วนท้ายที่สั่งทำพิเศษ และป้าย แกะสลัก จักรยานยนต์เหล่านี้จึงเป็นเครื่องบรรณาการให้กับศิลปะและนวัตกรรมบนสองล้อ
Rough Crafts - Midas Royale เพลิดเพลินกับการขับขี่ไปตามท้องถนนในเมืองไทเปด้วย Midas Royale รถคัสตอมสุดเท่ที่สร้างจาก Royal Enfield Continental GT แปลงโฉมเป็นผลงานชิ้นเอกโดย Winston Yeh จากสำนักแต่ง Rough Crafts โดยได้เปลี่ยนสวิงอาร์มจาก HPM Racing จับคู่กับระบบกันสะเทือนของ Ohlins พร้อมท่อไอเสียของ SC Project Conic 70 และเบรกของ BERINGER จักรยานยนต์คันนี้คือสิ่งซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของช่างฝีมือของไทเป
Bombay Custom Works - The Urban Mottard โดยคือกลิ่นอายของสไตล์ความเป็นอินเดียที่ถูกผสมเข้าไปใน Urban Scram มาพร้อมกับถังน้ำมัน แผงข้าง ที่ถูกคัสตอมใหม่ทั้งหมด นี่ืเป็นส่วนผสมของความดั้งเดิมผสานกับกลิ่นอายของความเป็นอนาคต เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ล้อขนาด 17 นิ้วและท่อแบบ Supertrapp เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ นี่คือรถที่สะท้อนความเป็นเมืองมุมไบในหลายๆด้านอย่างแท้จริง!
######
เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:
Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย สเน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ Hunter 350, Classic 350, Meteor 350, New Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 รวมถึงมอเตอร์ไซค์แนวผจญภัย The All-New Himalayan, Scram 411 ADV Crossover และ Bullet 350 ซึ่งกลุ่มนักขับขี่ผู้หลงใหลในเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์และการตกแต่ง สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี ที่มีทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ Motoverse หรือที่รู้จักในนาม Rider Mania ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลากหลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐโกอา ประเทศอินเดีย และยังมีงาน Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ผ่านภูเขาที่สูงที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจได้มากที่สุดเช่นกัน
Royal Enfield คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,050 แห่ง ทั่วเมืองใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีการส่งออกไปสู่ 1,150 สโตร์ในอีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เนปาล บราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลัมเบีย และด้วยอัตรา CAGR เติบโตมากกว่า 35% ต่อปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Royal Enfield นับเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลกอย่างแท้จริง
0 Comments