สร้างสถิติใหม่ มีนักขี่เข้าร่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยผู้ระดมทุนสูงสุด รับรถจักรยานยนต์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน จาก
“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์”
• งาน เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2024 มีนักขี่เข้าร่วมงานกว่า 113,000 คน จาก 959 เมือง ครอบคลุม 105 ประเทศ
• มีนักบิด Team Triumph จำนวน 541 คน เข้าร่วมการขับขี่ในแคมเปญ "Side by Side, Worldwide"
• โดยผู้ระดมทุนสูงสุดทั้งหมด 3 ราย และผู้ชนะรางวัล Gentlefolk ได้รับรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ โมเดิร์น คลาสสิก จากไทรอัมพ์
งาน เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ (The Distinguished Gentleman's Ride หรือ DGR) บิ๊กอีเวนท์ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมลูกหมาก และการดูแลสุขภาพจิตของเพศชายทั่วโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ได้จัดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา งานนี้มีนักบิดเข้าร่วมมากสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 113,000 คน จาก 959 เมือง ครอบคลุม 105 ประเทศ สามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 279 ล้านบาท)
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้ที่ร่วมระดมทุนได้สูงสุดในประวัติศาสตร์งาน DGR ได้แก่ Jaime Camil แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ DGR จากสหรัฐอเมริกา โดยได้รับรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น Thruxton RS Final Edition ในขณะที่ผู้ระดมทุนสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ได้แก่ Kat Thomsen แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ DGR จากสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วย Matias Seijo จากเอดินบะระ ที่ร่วมระดมทุนได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ส่วนรางวัล Gentlefolk ในปีนี้ตกเป็นของ Jason Etters ซึ่งเป็นผู้นำการขับขี่ที่เมืองแจ็กสันวิลล์ ในสหรัฐอเมริกา
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ "Side by Side, Worldwide" ผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั่วโลก ได้จัดกิจกรรมและร่วมขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อให้เหล่านักบิดสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ผ่าน "Team Triumph" ซึ่งเป็นกลุ่มนักขี่ที่จัดตั้งโดยเฉพาะขึ้นมา ซึ่งปีนี้มีจำนวนนักบิด 541 คน ที่ร่วมระดมทุนและขับขี่รถจักรยานยนต์ โมเดิร์น คลาสสิก ในฐานะสมาชิกกลุ่มผู้ขับขี่อย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ที่ระดมทุนได้สูงสุด 5 อันดับแรกในกลุ่มนี้ ได้รับรางวัลเป็นเสื้อผ้า Triumph X DGR
โดยบรรยากาศงาน DGR 2024 ในประเทศอังกฤษ มีนักบิดที่มีชื่อเสียงต่างเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ Paul Edmondson และ Martin Craven นักขับสตันท์จากภาพยนตร์เรื่อง 007 รวมถึง Kieran Clarket นักขับสตันท์จากแฟรนไชส์ Mission Impossible ได้ขับขี่รถรุ่นใหม่ Speed 400 และ Scrambler 400 X ที่กรุงลอนดอน ในฐานะส่วนหนึ่งของ Team Triumph ไปพร้อมกับ James Phelps นักแสดงผู้รับบท เฟรด วีสลีย์ จากภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ร่วมขับขี่รถรุ่น Bonneville T120 Stealth Edition ที่เมืองพูล
นอกจากนี้ยังมีการขับขี่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา นำทีมโดย Eric Hendrikx นักเขียนและช่างภาพชื่อดัง ที่ขับขี่รถรุ่น Thruxton RS ส่วนประเทศสเปน นำทีมโดย Pepe Barroso นักแสดงผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานในภาพยนตร์เรื่อง Gran Turismo ได้ขี่รถรุ่น Bonneville T120 ในกรุงมาดริด และ Ivan Cervantes นักบิดเจ้าของสถิติโลก ร่วมขับขี่รถรุ่น Scrambler 1200 XE ในเมืองเมรุส ขณะที่ Tai Jason โปรดิวเซอร์เพลงระดับแพลทินัม ขับขี่รถรุ่น Bonneville T100 ร่วมกับนักบิดอีกกว่า 600 คน จากผู้แทนจำหน่ายในเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นเส้นทางการขับขี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
สำหรับประเทศไทย ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้สนับสนุนการจัดงานขึ้นพร้อมกันผ่านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ, พัทยา, เชียงใหม่, พิษณุโลก, ลพบุรี, อุบลราชธานี, ขอนแก่น และภูเก็ต โดยมีเหล่าไรเดอร์หัวใจเดียวกันออกมาแสดงพลังมากมาย ทั้งตุลย์-วิศรุต พานิช อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่ขับขี่ Bonneville T100 คู่ใจ ออกมาช่วยระดมทุนมอบให้มูลนิธิโมเวมเบอร์ (Movember) เพื่อนำไปสนับสนุนและช่วยเหลือการวิจัยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก การรณรงค์การป้องกันฆ่าตัวตาย และโรคร้ายที่เกิดกับเพศชายต่อไป
ด้าน Paul Edmondson นักขับสตันท์จากภาพยนตร์เรื่อง 007 กล่าวว่า “ปีนี้ไทรอัมพ์และ DGR ประสบความสำเร็จในการรวมตัวนักขับขี่จำนวนมากขึ้น จากที่ต่าง ๆ ทั่วมุมโลก เพื่อร่วมระดมทุนสำหรับการส่งเสริมสุขภาพทางจิตของผู้ชายและการวิจัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ ทุกคนทุ่มเทให้กับการแต่งกายอย่างภูมิฐาน เพื่อนำเสนอชุมชนของเราในแง่มุมที่ดีที่สุด”
Kieran Clarket นักขับสตันท์จากแฟรนไชส์ Mission Impossible กล่าวเสริมว่า “การขับขี่รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ไปบนท้องถนนในกรุงลอนดอน ท่ามกลางกลุ่มนักขับขี่รถจักรยานยนต์นับร้อยที่ร่วมผนึกกำลังเพื่อระดมทุนให้การสนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวกับสุขภาพของผู้ชาย ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ เห็นได้จากการตอบรับของผู้คนบนทางเท้า และรถบนท้องถนนที่พวกเราขับผ่านไปนั้นต่างให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก”
ทั้งนี้ DGR 2024 กิจกรรมการกุศลที่ได้รับแรงบันดาลใจสุดคลาสสิก ยังได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ Hedon Helmets, ELF, Lubricants และ Quad Lock เพื่อตอบแทนความทุ่มเทให้กับเหล่าผู้ร่วมระดมทุนในปีนี้อีกด้วย
###
เกี่ยวกับ THE DISTINGUISHED GENTLEMAN RIDE
The Distinguished Gentleman’s Ride (DGR) เป็นการรวมผู้ที่รักมอเตอร์ไซค์คลาสสิกและวินเทจจากทั่วโลกให้มาร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็งต่อมลูกหมากและสุขภาพจิตในเพศชาย The Distinguished Gentleman’s Ride ก่อตั้งเป็นครั้งแรกที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2012 โดย Mark Hawwa โดยเขาได้แรงบันดาลใจจากภาพถ่ายคนใส่สูทคลาสสิกและมอเตอร์ไซค์วินเทจ เขาจึงตัดสินใจจัดกิจกรรมขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีธีมแต่งกายเพื่อลบภาพจำเดิม ๆ ที่คนมักมีต่อคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่รักมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก เพื่อให้มาร่วมกันระดมทุนสนับสนุนสิ่งที่มีความหมายต่อทุกคน ตั้งแต่ The Distinguished Gentleman’s Ride สามารถระดมทุนรวมกว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็งต่อมลูกหมากและสุขภาพจิตในเพศชายมาตั้งแต่ปี 2012 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.gentlemansride.com
เกี่ยวกับ Movember
Movember เป็นองค์กรการกุศลชั้นนำที่เปลี่ยนโฉมหน้าสุขภาพในเพศชายในระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่สุขภาพจิต และการป้องกันการฆ่าตัวตาย มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งอัณฑะ องค์กรการกุศลแห่งนี้ระดมทุนเพื่อนำเสนอโครงการวิจัยและสนับสนุนเชิงนวัตกรรมที่ก้าวหน้า ซึ่งช่วยให้ผู้ชายมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และอายุยืนยาวขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำลายสภาพที่เป็นอยู่ ผู้คนหลายล้านคนได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวนี้ โดยช่วยเหลือด้านทุนสนับสนุนโครงการมากกว่า 1,250 โครงการทั่วโลก นอกเหนือจากการแก้ปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่ผู้ชายต้องเผชิญแล้ว Movember ยังทำงานเพื่อส่งเสริมให้ผู้ชายมีสุขภาพที่ดีในทุกด้านของชีวิต โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ชายที่เชื่อมต่อทางสังคมและเปิดกว้างมากขึ้นในการพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพและช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของพวกเขา วิสัยทัศน์ขององค์กรการกุศลนี้คือการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อสุขภาพในเพศชาย หากต้องการบริจาคหรือเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ Movember.com
เกี่ยวกับ Triumph Motorcycles
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน Hinckley, Leicestershire และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ด้วยรถจักรยานยนต์มากกว่า 83,389 คันที่ส่งมอบในปี 2022 และมุ่งสู่การมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 800 รายทั่วโลกในปี 2023 ทำให้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 3,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน Hinckley, Leicestershire และประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมในสิ่งที่นักบิดทั่วโลกกำลังมองหา ความหลงใหลในการส่งมอบการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกคน และความใส่ใจในรายละเอียดที่มอบรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงสุด Triumph นำเสนอรถจักรยานยนต์ชั้นนำประเภทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุม รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิก โรดสเตอร์ และรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ตั้งแต่ซีรีส์ TR 400cc ที่สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึง Rocket 3 ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc อันทรงพลัง ทุกรุ่นเป็นตัวอย่างของสไตล์ คุณภาพ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์
มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์ เช่น Speed 400 และ Scrambler 400 X เปิดตัวในปี 2023 พร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์เดี่ยวใหม่ล่าสุด (TR Series) ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักบิดรุ่นใหม่
Modern Classics มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ในตำนานของ Triumph ที่ตั้งชื่อ เพื่อเฉลิมฉลองสถิติความเร็วบนบกของ Triumph ในปี 1956 บน Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา Bonneville เป็นรถซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษดั้งเดิมและเป็นผู้ชนะการแข่งขันในทันที โดยได้รับเลือกจากนักขี่รถจักรยานยนต์ชื่อดังในอดีต ที่มีความโดดเด่นด้านการควบคุมและสไตล์ ปัจจุบัน รถตระกูล Bonneville ได้รับการพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีที่เน้นผู้ขี่เป็นหลัก และสไตล์คัสตอมสุดเท่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Speedmaster, Thruxton RS, Speed Twin 900, Speed Twin 1200, Scrambler 900, Scrambler 1200 และ Bonneville T120 และ T100 อันเป็นเอกลักษณ์
0 Comments