• เปิดตัวแล้วกับการแข่งขัน Triumph Triple Trophy ประจำฤดูกาล 2024 ที่จะดำเนินการเคียงข้างไปกับการแข่งขันรายการ Moto2™ World Championship ที่ปีนี้จะขับเคลื่อนด้วยพลังของแฟน ๆ ทั่วโลก
โดยก่อนเปิดสนามแรกของฤดูกาลในการแข่งขัน ทางไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (Triumph Motorcycles) และ MotoGP™ ได้ร่วมกันเผยโฉมรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษที่จะเป็นรางวัลของการแข่งขัน Triumph Triple Trophy ฤดูกาล 2024 ซึ่งจะมอบให้กับนักแข่ง Moto2™ ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดประจำฤดูกาล และพิเศษยิ่งกว่านั้น ในปีนี้ผู้ชนะจะได้รับการตัดสินโดยเหล่าแฟน ๆ อีกด้วย
สำหรับรางวัล Triumph Triple Trophy ประจำฤดูกาลนี้ ได้เปิดตัวแล้วที่สนาม Lusail International Circuit ประเทศกาตาร์ เพื่อเชิดชูและเฉลิมฉลองให้กับนักบิดที่มีผลงานโดดเด่น หรือ การกลับมาในสนามที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างยอดเยี่ยม ไปจนถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ในแต่ละรอบสนามการแข่งขัน Moto2™ โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ Triumph Street Triple RS รุ่นพิเศษที่ตกแต่งแบบคัสตอม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ 765 ซีซี ซึ่งเป็นที่มาของขุมพลัง Moto2™ ที่สร้างสถิติใหม่มากมาย
ทันทีที่จบการแข่งขัน Moto2™ ในแต่ละสนาม คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นตัวแทนของไทรอัมพ์และแวดวงของ MotoGP™ จะทำการคัดเลือกรายชื่อนักแข่งสามคนที่มีความโดดเด่นที่สุด โดยพิจารณาจากภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ที่ทำการแข่งขัน ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันเท่านั้น โดยจะมีการเชิดชูเรื่องราวของความทุ่มเท ความอุตสาหะ รวมถึงผลงานอันโดดเด่นเข้ามาพิจารณาด้วย
จากนั้นแฟน ๆ จะสามารถร่วมโหวตผ่านช่องทาง Instagram ของ MotoGP™ โดยผลการจัดอันดับขั้นสุดท้ายของนักแข่งทั้งสามคนจะถูกตัดสินโดยตรงจากจำนวนโหวตของแฟน ๆ ที่แต่ละคนได้รับ
อ้างอิงจากเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ 765 ซีซี คะแนนในแต่ละสนามที่จะได้รับมีดังนี้ :
- 7 คะแนน สำหรับผู้ขับขี่ที่ได้รับการโหวตจากแฟน ๆ มากที่สุด
- 6 คะแนน สำหรับผู้ขับขี่ที่ได้รับการโหวตจากแฟน ๆ มากเป็นอันดับสอง
- 5 คะแนน สำหรับผู้ขับขี่ที่ได้รับการโหวตจากแฟน ๆ มากเป็นอันดับสาม
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ Street Triple RS รุ่นพิเศษที่ตกแต่งแบบคัสตอม ที่ผ่านมา ได้แก่ Marco Bezzecchi ในปี 2020, Raul Fernandez ในปี 2021, Jeremy Alcoba ในปี 2022 และ Pedro Acosta ในปี 2023
สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า "การแข่งขัน Triumph Triple Trophy ได้อยู่ในรายการแข่งขัน Moto2™ World Championship มาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว โดยมุ่งเน้นการยกย่องและเชิดชูความเข้มข้นดุเดือดของการแข่งขันอันน่าทึ่งตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งเราได้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและผู้ชนะที่คู่ควรมากมาย และตอนนี้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศการเปลี่ยนแปลงสำหรับฤดูกาล 2024"
“ตอนนี้แฟน ๆ Moto2™ สามารถเข้ามามีบทบาทในการตัดสินผลรางวัล Triumph Triple Trophy ได้ โดยการโหวตเลือกผู้ที่โดดเด่นในแต่ละสัปดาห์ ด้วยการเลือกจากรายชื่อนักขี่ 3 คนในแต่ละครั้ง เราหวังว่าแฟน ๆ Moto2™ จะเพลิดเพลินกับโอกาสในการตัดสินว่าใครจะเป็นผู้คว้ารางวัลรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Street Triple RS ประจำปีนี้กลับบ้านไป”
"ตั้งแต่ปี 2019 ที่เครื่องยนต์ 3 สูบ 765 ซีซี ของเราเริ่มใช้ในการแข่งขัน Moto2™ เราได้เห็นสถิติการวิ่งต่อรอบที่ลดลงทุกปี รวมถึงฤดูกาลที่สร้างประวัติศาสตร์อย่าง Pedro Acosta ผู้ที่เพิ่งคว้าชัยชนะจากแข่งขัน Moto2™ และได้ไปเฉิดฉายในรุ่น MotoGP™ แต่กว่าจะถึงจุดนี้ต้องอาศัยปัจจัยมากมาย ทั้งความมุ่งมั่น ความเด็ดเดี่ยวอันแรงกล้า ซึ่งนี่คือสิ่งที่การแข่งขัน Triumph Triple Trophy ต้องการยกย่อง ซึ่งต้องมาพร้อมกับการสนับสนุนจากแฟน ๆ ทุกคน"
คาร์ลอส เอสเปเลต้า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการกีฬา ดอร์น่า สปอร์ต กล่าวเสริมว่า “ไทรอัมพ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่สำหรับการแข่งขัน Moto2™ นับตั้งแต่พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ การทำลายสถิติรอบ และการมีบทบาทสำคัญในการวางตำแหน่งระหว่างรุ่น Moto3™ และ MotoGP™ รวมถึงในแง่ของความน่าเชื่อถืออันน่าประทับใจที่เราได้เห็นในแต่ละสัปดาห์ของการแข่งขัน ในฐานะการแข่งขันกีฬาที่มีความเชื่อมโยงอย่างเหนียวแน่นกับอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ระดับโลก เราภูมิใจมากที่มีกีฬาเหล่านี้เป็นตัวแทนที่อยู่ใน Paddock ในฐานะผู้ผลิต”
“ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว การแข่งขัน Triumph Triple Trophy ได้กลายมาเป็นรางวัลที่เป็นที่ต้องการอย่างมากเช่นกัน และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ในฤดูกาล 2024 ด้วยการเชิญชวนให้เหล่าแฟน ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการโหวตของพวกเขา”
###
หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
• ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน Hinckley, Leicestershire และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
เรื่องราวความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ
• ด้วยรถจักรยานยนต์มากกว่า 83,389 คันที่ส่งมอบในปี 2022 และมุ่งสู่การมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 800 รายทั่วโลกในปี 2023 ทำให้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
• ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 3,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน Hinckley, Leicestershire และประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลก
• ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมในสิ่งที่นักบิดทั่วโลกกำลังมองหา ความหลงใหลในการส่งมอบการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกคน และความใส่ใจในรายละเอียดที่มอบรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงสุด Triumph นำเสนอรถจักรยานยนต์ชั้นนำประเภทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุม รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิก โรดสเตอร์ และรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ตั้งแต่ซีรีส์ TR 400cc ที่สามารถเข้าถึงได้ไปจนถึง Rocket 3 ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc อันทรงพลัง ทุกรุ่นเป็นตัวอย่างของสไตล์ คุณภาพ และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์
• มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักขี่ทุกวัยและทุกระดับประสบการณ์ เช่น Speed 400 และ Scrambler 400 X เปิดตัวในปี 2023 พร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์เดี่ยวใหม่ล่าสุด (TR Series) ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักบิดรุ่นใหม่
• Modern Classics มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ในตำนานของ Triumph ที่ตั้งชื่อ เพื่อเฉลิมฉลองสถิติความเร็วบนบกของ Triumph ในปี 1956 บน Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา Bonneville เป็นรถซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษดั้งเดิมและเป็นผู้ชนะการแข่งขันในทันที โดยได้รับเลือกจากนักขี่รถจักรยานยนต์ชื่อดังในอดีต ที่มีความโดดเด่นด้านการควบคุมและสไตล์ ปัจจุบัน รถตระกูล Bonneville ได้รับการพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีที่เน้นผู้ขี่เป็นหลัก และสไตล์คัสตอมสุดเท่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Speedmaster, Thruxton RS, Speed Twin 900, Speed Twin 1200, Scrambler 900, Scrambler 1200 และ Bonneville T120 และ T100 อันเป็นเอกลักษณ์
• ตระกูล Roadsters เริ่มต้นด้วย Trident 660 ที่คล่องตัวและเป็นที่นิยม ตามด้วย Street Triple 765 และสุดท้ายคือ Speed Triple 1200 RS และ RR
• สำหรับนักขี่แบบผจญภัย Triumph มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ Tigers ระดับตำนานครบทุกรุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ Tiger Sport 660 ไปจนถึงกลุ่ม Tiger 850 Sport และ Tiger 900 และสุดท้ายคือกลุ่ม Tiger 1200
• ในปี 2023 ไทรอัมพ์ ได้ประกาศ การทำลานสถิติที่สุดของโลก “กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด” (GUINNESS WORLD RECORDS™) ครั้งใหม่อย่างเป็นทางการ สำหรับการขี่รถจักรยานยนต์รายบุคคลระยะทางไกลที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยไทรอัมพ์รุ่น Tiger 1200 GT Explorer บนสนามทดสอบความเร็วสูง Nardò Technical Center ในอิตาลี โดยอิวาน เซร์บันเตส (Iván Cervantes) แชมป์โลก Enduro 5 สมัย และ ไทรอัมพ์ โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์ (Triumph Global Ambassador) ที่สามารถทำสถิติระยะทางรวมมากกว่า 4,012 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมที่ 3,406 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้กว่า 600 กิโลเมตร
ไทรอัมพ์ เรซซิ่ง
• Triumph มีประวัติศาสตร์การแข่งรถอันรุ่งโรจน์ โดยเข้าแข่งขันและชนะการแข่งขันในเกือบทุกประเภทและทุกสาขาของความสำเร็จด้านการแข่งขันรถจักรยานยนต์ นับตั้งแต่การคว้าแชมป์ Isle of Man TT ครั้งที่สองในปี 1908 ไปจนถึงความสำเร็จบนท้องถนนและสนามแข่งในยุค 1960 ทั้งในยุโรปและอเมริกา ไปจนถึงความสำเร็จในการแข่งรถร่วมสมัยด้วยรถ Triumph รายการ SuperSport และ World SuperSport racing ในปี 2014 และ 2015 ชัยชนะรายการ Isle of Man SuperSport TT ในปี 2014 และ 2019 โดย Gary Johnson และ Peter Hickman บวกกับความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 130 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 2023 โดย Peter Hickman บน Triumph STR765 ของเขา ตลอดจนชัยชนะรอบสุดท้ายอันน่าตื่นเต้นในการแข่งขัน Daytona 200 ในตำนานโดย Brandon Paasch บน Street Triple 765 ในปี 2023
• ตำนานการแข่งรถของ Triumph ยังคงดำเนินต่อไปในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์แต่เพียงผู้เดียวในการแข่งขัน FIM Moto2™ World Championship นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2019 Triumph Motorcycles มอบรถสามสูบ 765cc ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการแข่งขันให้กับทุกทีม โดยแต่ละคันมีพื้นฐานมาจากขุมพลัง Street Triple RS ชั้นนำของคลาส นิยามใหม่ของคลาสนี้ Triumph ทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าในปีแรก รวมถึงความเร็วสูงสุด Moto2™ ที่ +300 กม./ชม. เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือที่ Triumph มีกับนักบิดและทีมของพวกเขา และการตอบรับอย่างเหลือเชื่อจากแฟน ๆ Triumph ทั่วโลก ทำให้ Triumph และ Dorna ตัดสินใจขยายความสัมพันธ์ในปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023 ด้วยการลงนาม สัญญาฉบับใหม่ต่อการแข่งขันอีก 5 ปี (2025-2029)
• ในปี 2022 ไทรอัมพ์เปิดเผยความร่วมมือกับ Thierry Chizat-Suzzoni ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของทีมที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ซึ่งกำลังสร้าง 2 รถจักรยานยนต์ MX แบบ 4 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี รุ่นใหม่ของไทรอัมพ์สำหรับการแข่งขันในรุ่น MX2 คลาส 250 ซีซี ฤดูกาล 2024 และจะเพิ่มรุ่น MXGP คลาส 450 ซีซี ในฤดูกาล 2025 และหัวหน้าทีม Bobby Hewitt และผู้จัดการทีม Stephen 'Scuba' Westfall จะนำรถจักรยานยนต์โมโตครอส 4 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี เข้าร่วมในการแข่งขันรายการ SuperMotocross World Championship ฤดูกาล 2024 ซึ่งประกอบด้วย Monster Energy Supercross World Championship และ Pro Motocross Championship พร้อม SuperMotocross สามรอบสิ้นสุดฤดูกาล สำหรับฤดูกาล 2025 ก่อนที่จะเข้าสู่ระดับพรีเมียร์คลาส ขนาด 450 ซีซี ในฤดูกาล 2025 ในการแข่งขัน SuperMotocross World Championship
0 Comments